สวัสดีครับ ช่วงนี้กระแส Ragnarok กำลังมาแรงในบ้านเรา เพราะเกม Ragnarok M : Eternal Love ที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานในจีน ที่หลังๆได้ทยอยเปิดทั้งในไต้หวัน เกาหลี และล่าสุดก็ประกาศเปิดเซิร์ฟฯ Global ที่มีภาษาไทยให้ได้เล่นกันด้วย และทุกคนจะได้เล่นเวอร์ชั่นเต็มๆในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้อย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกัน ทางประเทศจีนตอนนี้ ก็มีเกม Ragnarok M มีอีกหนึ่งเวอร์ชั่น ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง “Tencent” กำลังเปิดเทสอยู่ นั่นก็คือภาค “Love At First Sight” จนทำให้หลายๆคนงงๆ เกี่ยวกับสองเกมนี้ ว่าตกลงมันอะไรยังไงกันแน่ มีอะไรเหมือนกันบ้าง อะไรไม่เหมือนกันบ้าง วันนี้ผมจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันครับ
Ragnarok M : Eternal Love
นี้คือภาคสมาร์ทโฟนที่มีผู้เล่นสูงสุด ตัวเกมถูกพัฒนาโดย Dream Square และให้บริการเซิร์ฟฯโดย Heartbeat Network ในประเทศจีนตั้งแต่ปี 2017 โดยตัวเกมได้รับลิขสิทธิ์จาก Gravity อย่างถูกต้อง ก่อนที่จะกระจายไปยังประเทศอื่นๆโดย XD Global ในเซิร์ฟล่าสุดที่จะให้เราไ้เล่นช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ตัวเกมมีการออกแบบใหม่ ให้มีความเป็นเกมในยุคปัจจุบัน 3 มิติสวยงาม อีกทั้งยังอ้างอิงข้อมูลส่วนใหญ่ตามแบบฉบับ PC ไม่ว่าจะเป็นระบบอาชีพ สกิล เป็นต้น
Ragnarok M : Love At First Sight
เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาโดย Huanle Entertrainment,Dream2 และบริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน “Tencent” ที่เราคุ้นเคย อย่าง Arena of valor หรือ ROV และ PUBG Mobile ในเวอร์ชั่นนี้ จะเรียกได้ว่าเอาภาคต้นฉบับ PC มา Rework เลยก็ว่าได้ ตัวเกมมีความพยายามในการจะทำให้ประสบการณ์การเล่นคล้ายของเดิม ไม่ว่าจะเป็นยูสเซอร์ อินเตอร์เฟส แผนที่ การวางตำแหน่งของ NPC รวมไปถึงระบบอาชีพและสกิล แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของกราฟฟิคให้ดูทันสมัย เพิ่มระบบใหม่ๆ เข้ามาหลายส่วนเหมือนกัน
เอาละ ตอนนี้เรารู้จักเกมทั้ง 2 ภาค แบบคร่าวๆไปกันแล้ว ต่อไป เรามาดูข้อแตกต่างของ 2 เวอร์ชั่นนี้กันต่อเลย แต่ก่อนที่จะไปอ่าน ผมอยากให้ทุกคนเปิดใจ และอ่านด้วยความสนุนสนาน ไม่ดราม่ากันนะครับ ปล.คลิกที่ภาพ เพื่อดูรูปใหญ่ได้นะ
การสร้างตัวละคร
เริ่มกันที่การสร้างตัวละครกันก่อนเลยครับ ในเวอร์ชั่น Eternal Love นั้น จะมีตัวละครสายอาชีพต่างๆขึ้นมาให้เราเลือก แต่เราจะได้เริ่มต้นด้วยอาชีพที่เราเลือกเลยนะ เพียงแต่เป็นการจำลองว่าถ้าเราเลือกอาชีพนี้ ชุดจะประมาณนี้ เลือกผมแบบไหนจะเข้า ใส่เครื่องประดับบนหัวแบบไหนจะเหมาะ แต่พอเริ่มเกมก็จะเป็น Novice ไม่มีหมวก ไม่มีชุดสายอาชีพ มีแต่สเตตัสจะติดมาด้วย
ต่างจากเวอร์ชั่น Love At First Sight ที่มีให้เลือกว่าจะเล่นเป็นเพศหญิง หรือเพศชาย จากนั้นก็มีการปรับแต่งหน้าตา ทรงผม เปลี่ยนสีตา สีผม ซึ่งในระหว่างที่เลือก ตัวละครก็มีการเคลื่อนไหว เล่นอะไรไปทั่ว ดูมีชีวิตชีวาดี ส่วนภาค Eternal Love จริงๆก็มีทรงผมอีกเยอะนะ แต่จะต้องเข้าไปซื้อเอาในเกมครับ
หน้าเลือกตัวละครของทั้ง 2 เกมนั้น บอกตามตรง ว่ามีความคล้ายกันเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นฉากต้นไม้ การวางตัวละครตรงกลาง ไอคอนตัวละครฝั่งซ้าย ปุ่มกดกลับ และปุ่มเข้าเกม เรียกได้ว่าถอดกันมาเลยทีเดียว
รายละเอียดตัวละคร
การอัพค่าสเตตัส เป็นเรื่องพื้นฐานของเกมนี้ที่จะต้องมี โดยทั้ง 2 เกมก็ยังคงระบบนี้เอาไว้ทั้งคู่ จะแตกต่างกันก็ตรงส่วน UI ที่มีการออกแบบมาไม่เหมือนกัน ทางฝั่ง Eternal Love นั้น จะมีการแบ่งหน้าแยกออกไปทางด้านขวา หน้าแสดงผลรวม หน้าอัพสเตตัส ส่วนของ Love At First Sight นั้น จะไม่แสดงผลละเอียดเท่า นั้นแสดงผลแต่ส่วนที่สำคัญๆ หากต้องการดูแบบละเอียดต้องกดลึกลงไปอีกที
ต่อมาคือหน้าช่องเก็บของ และการใส่ไอเทมให้ตัวละคร อยากให้สังเกตฝั่ง Eternal Love ก่อน ไม่ว่าจะอยู่หน้าไหนๆ ที่เกี่ยวกับตัวละคร จะเป็นการซูมกล้องเข้ามา ซึ่งไม่ว่าเราจะทำอะไร หรือมีอะไรเกิดขึ้นรอบข้าง เรายังเห็นหมด ต่างจากของ Love At First Sight ที่เป็นหน้าต่าง Pop Up แยกขึ้นมาต่างหากเลย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครชอบแบบไหนนะครับ
การอัพสกิล ต้องบอกก่อนนะครับ ว่า 2 ภาพที่นำมาโชว์นี้คนละสายกันนะครับ ฝั่งซ้ายจะเป็นของ Novice ส่วนฝั่งขวาเป็น Swordman แล้ว เดี๋ยวหลายคนจะเข้าใจกันผิด ว่าทำไมสกิลถึงไม่เหมือนกัน ฝั่งซ้ายเป็นของ Eternal Love เราสามารถอัพสกิล หากมีแต้มพอนะ ซึ่งหลังอัพเสร็จ ก็สามารถตั้งค่าวางยังเมนูลัดได้เลย ส่วนทางฝั่งของ Love At First Sight นั้น จะแยกหน้าอัพสกิล กับหน้าติดตั้งสกิลออกจากกันครับ
เริ่มเข้าสู่เกม
น่าตกใจมาก สำหรับการเข้าเกมครั้งแรกของภาค Love At First Sight ผมอยากให้ทุกคนสังเกตที่มินิแมพด้านขวา เพราะนี้คือแมพฯเริ่มต้นเหมือนกับเวอร์ชั่น PC เลย!! รวมไปถึงการพูดคุย และการเดินเควสต่างๆในช่วงแรกๆ ต่างจากเวอร์ชั่น Eternal Love ที่จะเริ่มให้เรารับเควสกับ NPC โดยแต่ละเควสนั้น จะเป็นการสอนใช้งานระบบต่างๆในเกมควบคู่ไปด้วย ซึ่งหากใครที่เคยเล่น Ragnarok บน PC มาก่อน อาจจะคุ้นเคยกับภาค Love At First Sight แต่สำหรับ Eternal Love ก็ดีไปอีกแบบนะผมว่า ได้ประสบการณ์เล่นแบบใหม่ พร้อมทั้งเรียนรู้ระบบเกมไปในตัวด้วย
ในหน้าของการพูดคุยกับ NPC นั้น ทั้ง 2 เวอร์ชั่น ทำออกมาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในเวอร์ชั่น Eternal Love นั้น หากเราทำการกดพูดคุยกับ NPC จะเป็นการซูมกล้องเข้าไปไกล้ NPC ตัวนั้น พร้อมขึ้นข้อความต่างๆ แต่ในเวอร์ชั่น Love At First Sight จะเป็นการตัดฉาก โดยมี NPC ยืนอยู่กลางจอ และมีข้อความขึ้นมาให้พูดคุย
สิ่งหนึ่งที่เวอร์ชั่น Love At First Sight ทำได้ แต่ Eternal Love ทำไม่ได้ ก็คือการหมุนกล้อง ซูมเข้าออกต่างๆ ได้อย่างอิสระ เรียกได้เป็นสิ่งที่ผู้เล่น Ragnarok หลายคนต้องการ เพราะจะได้มองเห็นอะไรได้หลากหลายมุมมองมากยิ่งขึ้น ซึ่งเอาจริงๆ Eternal Love ก็ทำได้นะ แต่ทำได้เฉพาะตอนเปิดโหมดถ่ายภาพเท่านั้นครับ
เรื่องระบบถ่ายภาพนี้ ค่อนข้างจะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด และจุดประสงค์ในการถ่ายก็ต่างกันด้วยเช่นกัน ใน Eternal Love นั้น จะให้ถ่ายภาพ ตามเควส หรือถ่ายเพื่อลงสมุดภาพ แล้วได้ Adventurer Skill เพิ่มเป็นต้น ดังนั้น ลูกเล่นการถ่ายภาพจึงอาจจะไม่ได้เยอะแยะมากมายอะไร ต่างจากเวอร์ชั่น Love At First Sight ที่มีลูกเล่นกล้องค่อนข้างเยอะ จะเลือกถ่ายจากกล้องหลัง หรือให้ตัวละครเซลฟี่ โดยจะเห็นแขนตัวละครถือกล้อง เราสามารถเดินไปมาได้ นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่น AR ถ่ายภาพเสมือนจริงอีกด้วยครับ
เรื่องระบบกลางวัน กลางคืน ฝนตก อะไรประมาณนี้ ต้องบอกเลยว่าทั้ง 2 เวอร์ชั่น ทำออกมาได้ดีเหมือนกันทั้งคู่ แต่เวอร์ชั่น Love At First Sight จะได้เปรียบในเครื่องของแสงสีที่ทำออกมาเนียนตากว่า และตัวละครก็มีท่าทางต่อสถานการณ์ต่างๆของสภาพแวดล้อม อย่างตอนร้อนๆ ก็จะมีปาดเหงื่อ หรือตอนฝนตก ก็จะมีวิ่งเอามือบังฝนเป็นต้น
ระบบอาชีพ
สำหรับเกม Ragnarok M ทั้ง 2 เวอร์ชั่นนั้น เริ่มต้นมาจะเป็น Novice เหมือนกันทั้งคู่ จะมาเริ่มไม่เหมือนกันตอนเปลี่ยนอาชีพครั้งแรก สำหรับเวอร์ชั่น Eternal Love นั้น เราสามารถเข้าไปที่ปราสาทฝั่งซ้ายของเมื่องพรอนเทร่า คุยกับ NPC ของอาชีพต่างๆ เพื่อดูชุดตัวอย่าง หากเปลี่ยนเป็นอาชีพนั้น และไอคอนสกิลแบบคร่าวๆ หากสนใจสายอาชีพไหน ก็สามารถกด NPC ตัวนั้นได้เลย ต่างจากเวอร์ชั่น Love At First Sight ที่จะมีให้เราลองเล่นทุกอาชีพก่อน โดยการกดเลือกอาชีพที่มุมขวา จากนั้น ตัวละครจะเปลี่ยนเป็นอาชีพนั้นๆ พร้อมทั้งสกิลของสายอาชีพ หากสนใจอาชีพไหน เราก็จะถูกส่งไปที่เมืองประจำอาชีพนั้นๆ เพื่อทำเควสเปลี่ยนอาชีพ คล้ายของ PC เลยครับ
ของเวอร์ชั่น Eternal Love เมื่อคุยกับ NPC ประจำสายอาชีพนั้นๆเสร็จ จะมีการตอบคำถาม หลังจากนั้นก็ไปทำเควสนิดๆหน่อยๆ เมื่อสำเร็จ ก็จะถูกส่งมายังปราสาท เพื่อทำการเปลี่ยนอาชีพ โดยจะมีผู้คนมายืนร่วมยินดีกับการเปลี่ยนอาชีพของเรา เรียกว่าอลังการมากจริงๆ
ส่วนของ Love At First Sight จะแตกต่างออกไป หลังจากที่ได้ทดลองอาชีพทั้งหมดไปแล้ว หากเราชื่นชอบสายไหน เราก็ไปคุยที่ตัวละครประจำอาชีพนั้น จากนั้น เราจะถูกส่งไปยังเมืองประจำอาชีพ เช่น หากอยากเปลี่ยนเป็น Archer ก็จะถูกส่งไปยังเมือง Payon หากอยากเปลี่ยนเป็น Mage ก็จะถูกส่งไปเมือง Geffen เป็นต้น หลังจากนั้น เราก็จะต้องทำเควส ซึ่งค่อนข้างที่จะยุ่งยากเอาเรื่องเลย และหลังจากเปลี่ยนเสร็จ ก็จะมีการร่วมยินดี ตามหมู่บ้านหรือเมืองนั้นๆ ไปเลย เรียกได้ว่าอบอุ่นไปอีกแบบครับ 555
เพราะเป็นเกมที่มีดาต้าหลายอย่างเหมือนกัน การแสดงผลในส่วนของการอัพสเตตัส การอัพสกิลต่างๆ จึงเหมือนกันเกือบทั้งหมดในทั้ง 2 เวอร์ชั่น ในปัจจุบัน ต้องยอมรับจริงๆว่าฐานข้อมูลของภาค Eternal Love นั้นมีเยอะมากๆ เพราะเปิดมาได้เกือบ 2 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าเซิร์ฟฯที่จะมาเปิดให้เล่นในไทยนั้น จะตามหลังอยู่นิดหน่อย แต่ก็ยังถือว่ายังมีข้อมูลเยอะอยู่ โดยเฉพาะเรื่องของอาชีพ ที่มีเกือบเท่าบน PC แล้วในขณะนี้ ต่างจากภาค Love At First Sight ที่อาจจะยังมีอาชีพไม่เยอะเท่า แต่เรื่องความสวยงามเรื่องการแสดงผลกราฟฟิคสกิล เรียกได้ว่าทำออกมาสวยกว่าเยอะเลยทีเดียวครับ
ระบบบอท และการเดินทาง
เริ่มที่การทำเควสกันก่อนเลย หากใครที่เล่นเวอร์ชั่น Eternal Love อยู่ จะมองว่าเป็นปัญหามาก เพราะการทำเควสนั้น จะต้องเดินเควสเอง มีแค่สัญลักษณ์ขึ้นโชว์บนแผนที่เท่านั้น ซึ่งแบบนี้ ก็อาจเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ที่เราจะมีส่วนที่เล่นเองบ้าง ไม่ได้ให้บอททำให้ทุกสิ่งอย่าง แต่ในเวอร์ชั่น Love At First Sight จะแตกต่างออกไป คุณสามารถกดที่เควส แล้วตัวละครจะเดินเควสให้อัตโนมัติ อีกทั้งหากมีเควสโจมตีมอนสเตอร์ตัวไหน ก็จะไปเดินตีให้อัตโนมัติเลย เรียกได้เหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีเวลาเล่น หรือไม่ชอบทำอะไรด้วยตัวเองบ่อยๆ
กลับมาที่เวอร์ชั่น Eternal Love กันอีกเสียหน่อย เรื่องการบอท จริงๆเราสามารถปล่อยบอทตีมอนสเตอร์ได้นะ โดยกดที่รูปดาบ แล้วจะมีหน้าต่างขึ้นมาว่าคุณต้องการที่จะให้ตัวละครโจมตีมอนสเตอร์ตัวไหนบ้าง ก็ติกถูกที่มอนสเตอร์ตัวนั้น ตัวละครของเราก็จะโจมตีมอนสเตอร์ตัวนั้นไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเต็ม หรือตายไปเลย
เรื่องความเร็วในการเคลื่อนที่นี่ก็เป็นอีกเรื่อง อย่างที่เรารู้ว่าการอัพสเตตัสบางอย่าง ที่ช่วยเพื่อความเร็วในการโจมตี การหลบหลีก แต่มันไม่มีผลต่อการเคลื่อนที่ โดยปกติแล้ว ตัวละครสายอาชีพ Swordman และคลาสๆต่อไปของสายนี้ จะสามารถขี่ ปีโกปิโก๊ะ เพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ได้ ซึ่งเวอร์ชั่น Eternal Love เองก็เป็นเช่นนั้น แต่สำหรับเวอร์ชั่น Love At First Sight นั้นแตกต่างออกไป เพราะจะมีภาหนะมากมายให้เราได้เลือกเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นลุกโป่งลอยฟ้าเหมือนในภาพ ขี่โปริ่ง หรือแม้กระทั้งให้พี่หมีอุ้ม แบบนี้ปีโกปิโก๊ะของสาย Swordman ยังมีประโยชน์อยู่รึเปล่านะ?
ด้วยความที่มาก่อน จึงไม่แปลกเลยที่เวอร์ชั่น Eternal Love นั้น จะมีแผนที่ที่ใหญ่โตพอสมควร เรียกได้ว่าเดินกันแทบไม่ไหวกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเมืองสำคัญๆอย่าง Morroc, Payon, Prontera, Geffen และอีกมากมาย
ในขณะเดียวกันน้องใหม่เอง ก็ดึงเอาความคุ้นเคยของผู้เล่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ มีหลายคนที่บอกว่าระบบแผนที่ของเวอร์ชั่น Love At First Sight ไกล้เคียงกับเวอร์ชั่น PC มากที่สุด เรียกได้ว่า เอาคู่มือแผนที่ของเวอร์ชั่น PC มาเทียบได้เลย อันนี้จริงไม่จริงแค่ไหน ต้องไปพิสูจน์กันเอาเองนะครับ
คอสตูมและการแต่งกาย
นี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ Ragnarok เวอร์ชั่นสมาร์ทโฟน แตกต่างจากเวอร์ชั่นพีซี นั่นก็คือเรื่องของคอสตูมและการแต่งกายนั่นเอง คุณจะได้ไม่ได้เห็นแค่ตัวละครเปลี่ยนชุดเฉพาะตอนเปลี่ยนอาชีพ มีคอสตูมให้เลือกเยอะมาก รวมไปถึงเครื่องประดับที่อยู่บนหัว ผ้าคลุม ปีก และอื่นๆอีกมากมาย แต่อย่างที่เรารู้กันครับ ว่าเวอร์ชั่น Eternal Love นั้น เปิดมาเกือบ 2 ปีแล้ว ดังนั้นชุดต่างๆ ทั้งเนื่อในโอกาสพิเศษ อีเว้นท์ต่างๆ ล้วนมีออกมาเยอะมากๆ ส่วนของ Love At First Sight นั้น เนื่องจากช่วงนี้ก็ยังคงเป็นเวอร์ชั่น Test อยู่ ก็ยังไม่มีอะไรให้แต่งตัวมากครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับ ต้องบอกเลยว่านี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายส่วนเลยที่ผมยังไม่ได้ยกตัวอย่างเอามาเทียบกัน ต้องบอกว่าทั้ง 2 เวอร์ชั่นนั้นก็มีจุดเด่นและลูกเล่นที่แตกต่างกันไป อย่างในเรื่องของสีภาพที่สีสันสดใส ก็ต้องยกให้ทางฝั่งของ Eternal Love แต่ถ้าสีหม่นๆเนียนๆก็ต้องฝั่ง Love At First Sight เป็นต้น เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นไหน ก็มีความเป็น Ragnarok อยู่เหมือนกันทั้งคู่ แต่จะให้ทำออกมาเป๊ะๆเหมือน PC เลยก็คงจะไม่ได้ ไม่งั้นก็คงจะแย่งลูกค้ากันน่าดูเลยอะเนอะ
สำหรับใครที่ยังอยากตามไปอ่านต่อ เรายังมีรีวิว Ragnarok ของทั้ง 2 เวอร์ชั่น ตามไปอ่านต่อกันได้