TGE2019 : คู่มือเลือกสวิตช์ สุดฮิต Mechanical Keyboard
มีเกมมิ่งเกียร์ชิ้นสำคัญอีกตัวสำหรับคอพีซีที่ใช้งานคู่กับเมาส์นั่นก็คือ “คีย์บอร์ด” หรือแป้นพิมพ์ที่อยู่คู่มือเกมเมอร์มาเป็นระยะเวลานาน แน่นอนว่าคีย์บอร์ดสำหรับเกมเมอร์ก็ได้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอด จนในปัจจุบันเรามีเกมมิ่งคีย์บอร์ดสุดฮิตที่เรียกว่า Mechanical Keyboard คีย์บอร์ดแบบสวิตช์แยกที่มีรูปแบบการใช้งานหลากหลายที่เหมาะกับเกมเมอร์หลากสไตล์ วันนี้เรามีคู่มือการเลือกสวิตช์เด่นๆ ที่เหมาะกับตัวคุณก่อนไปซื้อกันที่ Thailand Game Expo by AIS eSports วันที่ 30 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน ที่ไบเทค บางนา มาฝากกัน
MX Blue Switch คือสวิตช์สุดฮิตที่ทำให้หลายคนหันมาเลือกใช้ Mechanical Keyboard เนื่องจากมีรูปแบบการกด 2 จังหวะ (tactile) พร้อมเสียงคลิกดังสุดมันกว่าใคร ตัวสวิตช์เด้งสู้นิ้วทำให้พิมพ์งานได้ต่อเนื่องและเพลินกว่าทุกครั้ง ส่วนในเรื่องของเกมก็เหมาะกับเกมทุกประเภทตามที่ผู้ใช้งานถนัด แต่สำหรับใครที่ไม่ได้อยู่บ้านคนเดียว การใช้ Blue Switch ตอนดึกๆ อาจทำเสียงดังจนคนข้างๆ หันมามองค้อนก็เป็นได้
MX Brown Switch เป็นอีกทางเลือกของคนที่ชอบการกดแบบ 2 จังหวะเหมือน Blue Switch แต่ต้องการเสียงที่เงียบลง (หรือใครที่อยากแอบเล่นดึกๆ แบบที่ไม่ต้องกลัวใครตื่น) บอกเลยว่าตอบโจทย์สุดๆ แม้จะมีแรงต้านมือที่เบากว่า Blue Switch เล็กน้อย แต่นอกนั้นถือว่ามีรูปแบบในการใช้งานที่ใกล้เคียงกันมาก จะเล่นที่บ้าน หรือพิมพ์งานที่ออฟฟิศก็ไม่หวั่น
MX Black Switch เป็นสวิตช์เก่าแก่อีกรูปแบบที่มีการทำงานจังหวะเดียว (linear) ต่างกับ 2 จังหวะตรงที่เราแค่กดลงไปตรงๆ แน่นๆ เท่านั้น ซึ่งสวิตช์นี้จะมีความแน่นและลึกค่อนข้างมากทีเดียว เหมาะกับเกมเมอร์สายมือหนัก กระแทกกระทั้นที่ชอบออกแรงกดเยอะๆ ทำให้ถ้าเอาไปพิมพ์งานอาจจะมีความรู้สึกไม่ต่อเนื่องเท่าแบบ 2 จังหวะ แต่ก็สามารถใช้งานได้ตามถนัดเช่นกัน
MX Red Switch ก็เป็นสวิตช์จังหวะเดียวเหมือน Black Switch ที่มีการทำงานแบบเส้นตรง แต่จะมีสัมผัสที่ตื้นกว่า ต้านน้อยกว่า ส่งผลให้มันเป็นสวิตช์ที่นิ่ม กดได้เร็ว ตอบสนองไว ทำให้เกมเมอร์สาย FPS ที่เน้นการตอบสนองรวดเร็วนิยมเลือกใช้กันมากทีเดียว
MX Silent Red Switch เป็นสวิตช์จังหวะเดียวที่มีต้นแบบมาจาก Red Switch แทบทุกประการ เพียงแต่จะถูกออกแบบมาให้เงียบกว่า ทำให้มันกลายเป็นสวิตช์สายเงียบของฝั่งจังหวะเดียว เป็นอีกตัวเลือกสำหรับผู้ที่ชอบความเงียบแต่ไม่ถนัดสวิตช์ 2 จังหวะแบบ Brown Switch
MX Silver Switch หรือในชื่อ MX Speed ก็ยังเป็นสวิตช์จังหวะเดียวที่มีต้นแบบมาจาก Red Switch เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่ามีการออกแบบให้ “ตื้น” กว่า เพื่อการตอบสนองป้อนคำสั่งที่รวดเร็วที่สุด ทำให้มันเป็น Mechanical Switch ที่รวดเร็วอันดับต้นๆ เหมาะสำหรับเกมเมอร์สายจริงจังที่ต้องการให้ทุกอย่างมีความเร็วเป็นที่หนึ่ง
แบรนด์เกมมิ่งเกียร์ชื่อดังอย่าง Razer ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตสวิตช์ออกแบบ Mechanical Switch ของตัวเองมา 3 รูปแบบในชื่อ Razer Green Switch ที่มีลักษณะการใช้งานแบบ tactile คล้าย MX Blue Switch คู่กับ Razer Orange Switch ที่มีลักษณะการใช้งานแบบ silent tactile คล้าย MX Brown Switch และ Razer Yellow Switch ที่มีลักษณะการใช้งานแบบ linear คล้าย MX Silver Switch ซึ่งสวิตช์ทั้ง 3 แบบจะมีน้ำหนักและความรู้สึกในการใช้งานที่แตกต่างกับ Cherry MX Switch เล็กน้อยอีกด้วย
Optical Switch หรือ Opto-Mechanical Switch เป็นการนำเอา Mechanical Switch มาร่วมทำงานกับแสงเลเซอร์ในการรับสัมผัสแทนแผ่นโลหะ ทำให้มีการตอบสนองที่เร็วกว่า และเมื่อไม่มีการสัมผัสกันตรงๆ ทำให้ตัวสวิตช์สึกหรอช้าลง โดยผู้ผลิต Optical Switch นั้นมีหลายแบรนด์เช่นเดียวกับ Mechanical Switch ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น Flair Tech ที่ผลิตให้กับแบรนด์ Zowie หรือ Razer ที่ผลิต Opto-Mechanical Switch ของตัวเอง
ทั้งหมดนี่เป็นคัมภีร์ในการเลือกรูปแบบสวิตช์ของ Mechanical Keyboard ที่เป็นที่นิยมในวงการเกมมิ่ง แต่จริงๆ แล้วรูปแบบของ Mechanical Switch ยังมีรวมๆ กันหลายแบรนด์นับร้อยรุ่น และในงาน Thailand Game Expo by AIS eSports วันที่ 30 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน ที่ไบเทค บางนา ก็รอคอยให้ทุกคนมาลองสัมผัสสวิตช์ที่ใช่และยกกลับบ้านไปใช้กัน ก็มาดิค้าบ