เนื่องจากล่าสุด เกม Onmyoji : Code SSR หนึ่งในเกมใหม่จากซีรีย์องเมียวจิ ในรูปแบบการ์ดเกม ได้เปิดเทสอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 16-25 ตุลาคม ทำให้ผู้ที่สนใจอยากจะเล่นเกมนี้ได้ไปลงทะเบียนเพื่อรับลิงค์ดาวน์โหลดกันเป็นจำนวนมาก และก็เต็มในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงหลังเปิดให้ลงทะเบียน!!
แต่สำหรับใครที่ลงไม่ทัน วันนี้ผมมีวิธีการเล่นเกม Onmyoji : Code SSR(ชื่อยังไม่เป็นทางการ) แบบเบื้องต้นมาฝากกัน เผื่อว่าใครอยากศึกษาข้อมูลเกมเอาไว้ในระหว่างรอเกมเปิดให้เล่นจริงครับ
เกม Onmyoji : Code SSR นั้น เป็นเกมการ์ดที่อ้างอิงตัวละครจากเกมซีรีย์องเมียวจิ ชูจุดเด่นไปที่รูปแบบการเล่นที่แปลกใหม่ อาร์ตเวิร์คที่สวยงาม และระบบเสียงที่ได้นักพากษ์ดังๆ มาพากษ์หลายท่านเลยทีเดียว
รูปแบบของการ์ด และการจัดเด็ค
เกมนี้จะแบ่งการ์ดออกเป็น 3 ประเภท ไล่จากซ้ายไปขวาเลยก็แล้วกันนะครับ
- การ์ดตัวละครชิกิงามิ การ์ดที่มีด้านบนโค้งๆ เป็นการ์ดตัวละครที่สามารถใส่เข้ามาในเด็คได้ 4 ใบ สามารถอัพเกรดเพื่อเพิ่มระดับได้
- การ์ดโจมตี การ์ดที่มีด้านบนมุมแหลม เป็นการที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการโจมตี โดยลากไปที่ศัตรู จากนั้นการ์ดตัวละครของการ์ดใบนี้จะถูกนำไปไว้ที่บริเวณกลางกระดานสนามประลอง เพื่อทำการโจมตี
- การ์ดเวทย์มนต์ การ์ดที่ด้านบนเป็นมุมตัด เป็นการ์ดที่สามารถใช้งานและเกิดเอ็ฟเฟกต์ทันที โดยที่ไม่ต้องนำการ์ดตัวละครไปวางที่กลางกระดาน
ซึ่งการ์ดแต่ละใบนั้น จะมีเงื่อนไขการใช้งานนิดหน่อย นั่นคือตัวละครชิกิงามิบนกระดานต้องมีระดับตามที่กำหนด ถึงจะใช้การ์ดได้ หลักการคือ เมื่อเริ่มเกมมา ตัวละครชิกิงามิทั้ง 4 ใบจะยังไม่มีระดับ เราต้องจั่วให้ได้การ์ดเพิ่มระดับเพื่อพัฒนา จากนั้นเราจึงจะสามารถใช้การ์ดในระดับนั้นๆตามที่กำหนดได้
อีกเงื่อนไขในการอัพเกรดชิกิงามิ กรณีที่เราจั่วการ์ดขั้นอื่นๆของชิกิงามิตัวนี้ไม่ได้สักที เราก็สามารถอัพเกรดเลื่อนขั้นให้ได้ เพราะจริงๆแล้วทุกครั้งเมื่อเริ่มเทิร์นของเรา เราจะได้สิทธิ์ในการเลื่อนขั้นชิกิงามิบนกระดานเทิร์นละ 1 ครั้ง แต่การเลื่อนขั้นนี้ค่าพลังโจมตีและค่าพลังชีวิตจะไม่ได้ขึ้นด้วย เพียงแต่จะทำให้สามารถใช้งานการ์ดในระดับนั้นได้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่จั่วการ์ดระดับนั้นได้หลังอัพไปแล้ว เราสามารถกดใช้การ์ดใบนั้น เพื่อเพิ่มค่าพลังโจมตี และพลังชีวิต ตามที่การ์ดกำหนดได้ทันทีครับ
วิธีการอ่านการ์ดของเกมนี้นั้นง่ายมากๆ ดังนี้
- A : อาร์ตเวิร์ค
- B : ชื่อการ์ด
- C : ระดับในตอนนี้/ระดับที่ต้องสามารถใช้งานได้
- D : คำอธิบาย
- E : พลังโจมตี
- F : พลังชีวิต
- G : พลังป้องกัน
ซึ่งในชุดของชิกิงามิแต่ละตัวนั้น ก็จะมีการ์ดของตัวเอง ซึ่งเราจะต้องจัดการ์ดให้ตรงตามตัวที่ต้องการใช้(บังคับ) อย่างที่บอกไป ว่าใน 1 เด็ค เราสามารถใส่ตัวละครได้ 4 ตัว ซึ่งหลังจากเลือกตัวละครเสร็จแล้ว ก็ใส่การ์ดโจมตี หรือเวทมนต์ของตัวละครนั้นต่อได้เลย
ส่วนใครที่กลัวงงว่าจะจัดแบบผิดๆถูกๆรึเปล่า ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะตัวเกมออกแบบมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว เราจะเห็นว่ากรอบด้านล่างจะมีตัวละคร 4 ตัวที่เราเลือกเอาไว้อยู่ ซึ่งเมื่อเรากดก็จะเป็นสล็อตใส่การ์ดของตัวละครนั้นๆเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องมีการ์ดเหล่านั้นไว้ในครอบครองด้วยนะครับ
หาการ์ดด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีการเล่นก็มาพูดถึงการหาการ์ดมาครอบครองกันก่อน ในเกมจะมีวิธีหาการ์ดหลายวิธีมาก แต่วิธีหลักก็คือการเปิดซองหรือที่เราเรียกกันว่าการกาชา โดยสุ่ม 1 ครั้ง จะเปิดการ์ดได้ทั้งหมด 5 ใบ แต่ถ้าถามว่ามีวิธีอะไรอย่างอื่นอีกบ้าง ก็มีนะครับ ดังนี้เลย
คือในเกม Onmyoji : Code SSR เนี้ย ก็ไม่เชิงว่าเป็นเกม Multi Player แล้วต้องเล่นกับผู้เล่นคนอื่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะในเกมยังมีสู้กับบอท เล่นโหมดเนื้อเรื่อง ทำเควส เคลียร์มิชชั่น โดยการสู้กับคอม และหากสำเร็จ ก็จะได้ของรางวัลต่างๆมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการ์ดนั่นเอง
สุ่มดารุมะ!! ระบบสุ่มที่ตามหลอกหลอนคุณไปทุกที่ที่เป็นเกมซีรีย์องเมียวจิ และนี่ก็เช่นเดียวกัน การสุ่มดารุมะในเกมนี้จะไม่ได้การ์ดโดยตรงเลย แต่จะให้เป็นซองมาแทน(ถ้าดวงดี) หลังจากนั้นก็เอาซองไปเปิดต่อ ได้การ์ดอะไรดีไม่ดี ก็วัดกันตรงนี้แหละจร้า
อีกหนึ่งวิธีก็คือการสมัคร Battle Pass งงใช่ไหมละ ระบบที่เกมใหม่ๆนิยมเอามาใช้กัน เกมนี้ก็เช่นกันครับ วิธีการใช้งานก็เหมือนกับเวอร์ชั่น Arena เลย คือทำเควสตามที่กำหนด หากสำเร็จก็จะได้แต้ม เมื่อเลเวลอัพ ก็จะได้ของตามที่กำหนด และหนึ่งในนั้นก็เป็นพวกซองต่างๆที่เอาไปเปิดการ์ดด้วย
วิธีการเล่นที่แสนง่ายแต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด!!
มาถึงวิธีการเล่นกันบ้าง ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับกระดานของเกมนี้กันก่อนเลยดีกว่า ว่ามีอะไรตรงไหนบ้าง
และนี่คือหน้าตาโดยรวมของกระดานที่ใช้แข่ง หน้าตาคลีนๆแต่ให้อารมณ์ศิลปะญี่ปุ่นแบบสุดๆ ด้านบนเป็นพื้นที่วางการ์ดของคู่ต่อสู้ ส่วนด้านล่างเป็นของเรา เริ่มเกมมาปุ๊บ การ์ดชิกิงามิทั้ง 4 ตัวที่เราเลือกไว้จะถูกนำมาวางบนกระดานทันที
ทั้ง 2 ทีมจะมีพลังชีวิตเริ่มต้นคนละ 30 หน่วย และลูกไฟคนละ 2 ดวง โดยในส่วนของลูกไฟนี้จะเป็นตัวแสดงว่าในเทิร์นนี้เราเล่นได้กี่ครั้ง โดยในเวอร์ชั่นเทสนี้จะมี 2 ดวงเสมอ ไม่เพิ่มไม่ลดไปมากกว่านี้
วิธีการเล่นคือ หากเราจะใช้ชิกิงามิตัวไหนโจมตีหรือตั้งรับการโจมตี การ์ดชิกิงามิใบนั้น จะถูกย้ายไปอยู่ตรงกลางกระดาน การโจมตีการ์ดชิกิงามิของฝั่งตรงข้ามนั้น ก็จะได้รับความเสียหายกลับตามจำนวนพลังโจมตีของการ์ดที่โจมตี แต่หากฝั่งตรงข้ามไม่มีการ์ดอยู่ตรงกลาง เราสามารถโจมตีตรงเข้าหาผู้เล่นที่มีพลังชีวิต 30 หน่วยได้เลย
ในขณะเดียวกัน หากเราไม่มีการ์ดอยู่ตรงกลางกระดานเพื่อตั้งรับการต่อสู้ เมื่อถึงเทิร์นของศัตรู ก็มีโอกาสสูงที่ศัตรูจะเลือกโจมตีเราโดยตรง โดยไม่สนใจชิกิงามิฝ่ายเราเลยก็ได้เช่นกัน
มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะสงสัย ว่าแล้วหากการ์ดชิกิงามิเราโดนโจมตีจนพลังชีวิตหมด จะเป็นยังไงต่อ? คำตอบคือ เมื่อการ์ดชิกิงามิของเราโดนโจมตีจนพลังชีวิตหมด จะถูกปิดการใช้งาน ไม่ให้ใช้งานได้นาน 3 เทิร์น โดยจะมีรูปนาฬิกาทรายสีม่วงแปะตรงกลางการ์ดเลย ซึ่งผลนี้ จะส่งไปถึงการ์ดโจมตีและเวทมนต์ของชิกิงามิตัวนี้ ก็ไม่สามารถใช้งานได้เช่นกันครับ
ลืมบอกไป ว่านอกจากหน้าการ์ดที่ต้องสะสมแล้ว หลังการ์ดก็เช่นกัน ในเกมนี้เราสามารถเปลี่ยนหลังการ์ดได้เหมือนเกมอื่นๆเลย ส่วนวิธีการหาก็จากการสุ่มดารุมะ Battle Pass และเควสต่างๆเป็นต้นครับ
เอาเป็นว่า หากใครที่อ่านบทความนี้จบแล้วอยากจะเล่น ก็ต้องบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าอดใจรอกันอีกไม่นาน เพราะตัวเกมนี้เทสมากว่า 3 รอบแล้ว ซึ่งการเทสครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์มากๆแล้ว ผมเองก็หวังว่าตัวเกมจะเปิดให้เล่นช่วงปายปีนี้ หรือต้นปีหน้านะครับ ซึ่งถ้ามีอัพเดตอะไรเข้ามา กดติดตามเพจและเว็ปฯ Thailand eSports Club เอาไว้ เราจะรีบอัพเดตให้คุณได้รู้ก่อนใครแน่นอน แล้วเจอกันครับ