สวัสดีครับ วันนี้จะเป็นอีกครั้ง ที่จะพาทุกคนไปท่องในโลกของ Ragnarok อีกครั้ง และแน่นอน ว่าแต่ละครั้ง ก็จะไม่เหมือนกัน รวมไปถึงครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ในครั้งนี้ ผมจะพาไปรู้จักภาค “Adventurer” หรือ “The World” (ยังไม่ทราบแน่ชัด ว่าหากเปิดเวิร์ฟฯ Global จะใช้ชื่อไหนแน่ๆ) ที่แตกต่างจากภาค Eternal Love และ Love At First Sight อย่างสิ้นเชิง โดยตัวเกมจะเป็นการนำเอาระบบ MMORPG แบบ Open World ซึ่งเป็นพื้นฐานหลักของเกม Ragnarok มาผสมกับการกาชาสะสมตัวละคร และจัดทีมไปสู้กับมอนสเตอร์ ตามเกมดังๆบนสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบัน
Ragnarok M : Adventurer พัฒนาโดยบริษัท LUYGAME ENTERTAINMENT ถึงแม้เราจะค่อยคุ้นกับชื่อของค่ายเกมนี้ แต่ยืนยันความสนุกได้ เพราะก็ได้ลิขสิทธิ์มาจาก Gravity เช่นกัน ตัวเกมมีการออกแบบมาให้เป็นเกมแนวคล้ายๆกับ Final Fantasy สมัยก่อน คือจะมีตัวหลักเป็นตัวดำเนินเรื่อง เดินทางไปในสถานที่ต่างๆ แต่พอเจอมอนสเตอร์ ก็จะตัดเข้าสู่ฉากต่อสู้ ดังนั้น ในเวอร์ชั่นนี้ จึงแตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ พอสมควร คือจะไม่ได้เป็นแนว Open World หรือ RPG จ๋า ระบบเควสต่างๆไม่ซับซ้อน สามารถเล่นได้คนเดียว โดยไม่ต้องพึ่งผู้เล่นอื่น และสิ่งที่โดดเด่นกว่า ก็คือการสะสมตัวละคร ซึ่งเป็นระบบหลักของเกมนี้ และไม่มีในเกม Ragnarok เวอร์ชั่นอื่น
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่เลาจน์ แหล่งชุมนุมของเหล่านักรบ”
เชื่อว่านี่จะเป็นส่วนที่ผู้เล่นเกมนี้จะต้องเข้ามาบ่อยที่สุดก็เป็นได้ สถานที่แห่งนี้ เปรียบเหมือนร้านนั่งดริ้งที่เหล่านักรบ นักผจญภัยมารวมตัวกัน ส่วนนี้เราสามารถที่จะมาเปิดกาชา เพื่อหาคนมาร่วมทีม หรือรับเควสก็มาที่เลาจน์แห่งนี้ได้เลย พูดง่ายๆก็เหมือนร้านกาชานั่นละครับ ที่นี้เรามาดูในส่วนของตัวละครกัน
เกมนี้ จะแบ่งตัวละครออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือตัวละครหลัก ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นตัวละครที่เราจะได้สร้างตอนเริ่มเกม สามารถเลือกเพศ ราศี ทรงผม และอาชีพ แต่พอเริ่มเกม จะยังเป็น Novice อยู่นะครับ และเมื่อเล่นไปถึงระดับที่กำหนด ก็จะมีเวลาสำหรับเปลี่ยนอาชีพ ตัวละครหลักนั้นจะแสดงผลในส่วนของ Open World เราจะใช้ตัวนี้ ในการเดินไปไหนมาไหน สามารถอัพสเตตัส อัพสกิล แต่งตัว สำหรับตัวละครนี้ได้
และการเปลี่ยนคลาสต่างๆ ก็สามารถทำได้ในตัวละครหลักนี้ครับ ในเวอร์ชั่นเทสนี้ จะยังมีอาชีพให้เลือกไม่เยอะมาก แต่เท่าที่ดูก็น่าจะมีอัพเดตในอนาคตจนครบเหมือนเวอร์ชั่นอื่นๆ
ในการผจญภัย ตัวละครหลักของเรา จะทำหน้าที่ไปในแผนที่ต่างๆ ตามการควบคุมของเรา ซึ่งความแตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆก็คือ จะไม่ได้มีมอนสเตอร์ชุกชุม และแผนที่ก็อาจจะไม่ได้กว้างมาก มีหีบสมบัติ มีของให้เก็บระหว่างทาง และหากเจอมอนสเตอร์ หากไปยืนในพื้นที่ไกล้ๆในเวลาที่กำหนด ก็จะตัดไปที่ฉากต่อสู้ทันที แต่ก่อนที่จะไปถึงส่วนนั้น เรามาดูตัวละครอีกประเภทกันก่อนครับ
ตัวละครอีกประเภทนั้น เป็นตัวละครที่เราจะต้องไปเปิดกาชา เพื่อให้ได้มา และนำมาร่วมทีมกับเรา ซึ่งการจัดทีมนั้น สามารถนำมาใส่ได้สูงสุดถึง 6 ตัว รวมตัวละครหลัก โดยตัวละครเหล่านี้ เป็นตัวละครที่จะมีอาชีพ และสกิลมาอยู่แล้ว โดยความเก่งกาจนั้น จะแยกออกเป็นระดับ รวมไปถึงคลาสด้วย ดังนี้
- C ก็จะเป็นพวกเหล่า Novice
- UC ก็จะเป็น First Class อย่าง Swordman, Mage, Acolyte, Merchant, Thief, Archer เป็นต้น
- R ก็จะเป็น Secord Class อย่าง Knight, Crusader, Wizard, Sage, Hunter, Alchemist เป็นต้น
- SR ก็จะเป็น Transcendent Second Class อย่าง Sniper, Paladin, Assassin Cross, Champion เป็นต้น
- SSR ก็จะเป็น Third Class อย่าง Mechanic, Geneticist, Sorcerer, Arch Bishop เป็นต้น
แต่ความสนุกในการสุ่มกาชา ไม่ใช่การที่สุ่มให้ได้อาชีพที่อยากได้มาร่วมทีมเท่านั้น เพราะอย่างสมมุติใน 1 อาชีพ เช่น Wizard ก็จะมีอีกหลายๆตัวละคร บางตัวมีสกิลนึง อีกตัวมีอีกสกิลนึง บางตัวสเตตัสสายนึง อีกตัวสายนึง และหลังจากได้ตัวละครมาแล้ว ก็ต้องเอาไปอัพดาวอีกเป็นต้น
“ได้เวลาผจญภัยแล้ว”
เมื่อจัดทีมครบ ก็ได้เวลาที่จะออกผจญภัยสู่โลกกว้าง ถึงแม้ว่าตัวเกมจะแตกต่างจากภาคอื่นๆในเชิงของเกมเพลย์ข้างใน แต่ก็ยังคงความเป็นแรคนาร็อคเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเมือง แมพต่างๆ ยังคงมีครบ น่าสนใจตรงที่มุมมองภาพมีหลากหลายแบบ และปรับกล้องได้ตามใจชอบ ซึ่งในการเดินไปยังสถานที่ต่างๆด้วยตัวละครหลักนั้น จะมีอะไรให้ทำเยอะมาก ยกเว้นการต่อสู้ ก็ยังมีไปหาของ ไปพูดคุยกับ NPC ไปซื้อของ และอื่นๆอีกมากมาย อย่างที่บอกว่าเกมเพลย์ตอนต่อสู้นั้น จะคล้ายกับ Final Fantasy คือหากเจอมอนสเตอร์ แล้วเราเดินไปชน ก็จะตัดเข้าฉากต่อสู้ แต่ถ้าเราเดินหลบ ก็ไม่เป็นการเลี่ยงการต่อสู้ครับ
เมื่อเริ่มการต่อสู้ นี่จะไม่ใช่เกมแนว Turnbase ที่สลับกันโจมตี แต่จะเข้าสู้กันทั้งหมดเลยแบบ Realtime Action สิ่งที่เราจะต้องทำ ก็คือดูว่าตัวละครไหนพร้อมใช้สกิลท่าไม้ตาย ซึ่งจะมีแสงสีฟ้าขึ้นมาที่กรอบรูปตัวละครนั้น ก็ให้เรากดใช้ จะมีคัตซีนสวยๆ และตามด้วยสกิลของตัวละครนั้น เมื่อจัดการหกับมอสเตอร์ทั้งหมดไๆด้ ก็เป็นจบการต่อสู้
“เลือกทีมแบบไหนดี ถึงจะเก่ง?”
โดนปกติแล้ว หากใครที่เล่น Ragnarok มา ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่น PC หรือ Mobile ในหลายๆเวอร์ชั่น การจะไปล่าบอส ลงดันต่างๆ ก็อาจจะต้องมีแทงค์อย่าง Paladin, Royal Guard อย่างน้อย 1 ตัว มีตัวทำดาเมจหมู่อย่าง Wizard ตัวทำดาเมจเดี่ยวแรงๆ ไว้ล้มบอสอย่าง Sniper และ Assassin และตัวบัฟทีมอย่าง Black Smith ไว้เสริมพลังโจมตี และ Priest ไว้ฟื้นฟูพลังชีวิตให้ทีมเป็นต้น ซึ่งกว่าจะไปหาคนมาครบในการที่จะล่าบอสแต่ละครั้ง ก็อาจจะต้องใช้เวลานาน ถ้าไม่มีตี้ประจำ หรือกิลด์ประจำเป็นต้น แต่สำหรับเกมนี้ เราสามารถหาตัวละครต่างๆมารวมทีมได้ถึง 6 ตัว นั่นหมายความว่าคุณไม่ต้องไปหาผู้เล่นอื่นเลย ทีนี้ก็อยู่ที่ว่า คุณจะตั้งทีมให้เหมาะแก่การล่าบอสตัวนั้นๆได้ตรงหรือไม่ เพราะมันก็จะมีในเรื่องของธาตุ และอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แล้วเกมภาคนี้เหมาะกับใคร? อันนี้หลายคนอาจจะสงสัย เพราะถ้าเทียบกับอีก 2 เวอรชั่นที่เน้นประสบการณ์การเล่น ที่คล้ายคลึงกับเวอร์ชั่น PC แต่เกมนี้จะแตกต่างออกไป โดยที่เหมาะกับผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีเวลาเล่น หรือคนที่ทำงานไป และอยากเล่นเกมไปด้วย เกมนี้จะเหมาะกับคนกลุ่มนี้ เพราะระบบส่วนใหญ่จะเป็นออโต้ ตามแบบฉบับเกมมือถือในยุคใหม่ อีกทั้งหากใครที่ชื่นชอบการสะสมตัวละคร เกมนี้จะมีอาร์ตที่สวย และตัวละครสามมิติก็น่ารักไม่เบาเลยทีเดียวละครับ
ชื่อ : Ragnarok M : Adventurer
แพลตฟอร์ม : เปิดในระบบ Android และ IOS
ประเภท : RPG
ราคา : ฟรี
Overview
ความสวยงามของภาพ - 65%
เนื้อเรื่อง - 70%
ระบบเกม - 80%
ความสนุกในการเล่น - 70%
ดนตรีและเสียงพากษ์ - 65%
การกินทรัพยากรเครื่อง - 80%
72%
คะแนนจากทีมรีวิว
ถึงแม้ว่าในภาคนี้ จะมีความเป็น Ragnarok อยู่น้อยมากๆ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่เอาธีมมาทำเสียมากกว่า แต่ก็ให้ประสบการณ์การเล่นที่สนุกเหมือนกัน อย่างน้อยระบบอาชีพ ตัวละคร และสกิล ก็มีความคล้ายกัน โดยรวมสนุก เพราะส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยมีเวลาเล่นเกมแนว Open World เกมนี้ จึงน่าสนใจ เล่นตอนทำงานก็ได้ สะสมตัวละครได้ไม่รู้จบ
