สวัสดีครับ วันนี้ถือว่าเป็นอีกวันที่น่าสนใจ เพราะในวันนี้ผมจะนำ Black Shark 2 Pro มาแนะนำให้เหล่าเกมเมอร์ได้รู้จักกันครับ ความสนใจของเจ้าสมาร์ทโฟนตัวนี้น่าสนใจตรงไหน ก็ตรงที่มันสามารถตอบโจทย์เกมเมอร์ได้เป็นอย่างดีเลยหละครับ บวกกับความเท่ ที่แค่หยิบออกมาเล่นเกมก็ถูกจับตามองแล้ว ว่าแล้วเราลองไปค่อยๆ ทำความรู้จักกับ Black Shark 2 Pro กันเลยดีกว่าครับ
Black Shark 2 Pro เป็นอีกหนึ่งไอเท็มสำคัญ ที่เหล่าเกมเมอร์อยากได้มาครอบครอง ด้วยตัวเครื่องที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์ชัดเจน ประสิทธิภาพของเครื่องที่รองรับทุกการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี รวมถึงดีไซน์ที่เอาใจคอเกมโดยเฉพาะ ก็พูดได้เต็มปากเลยครับว่านี่คือหนึ่งในสมาร์ทโฟนในฝันของเหล่าเกมเมอร์เลย
มาเริ่มต้นด้วยการแกะกล่องกันเลยครับ ต้องบอกก่อนนะครับว่า Black Shark 2 Pro ที่ทางเราได้รับมานั้น ค่อนข้างจะพิเศษหน่อย เพราะนอกจากสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมขั้นเทพแล้ว เรายังได้รับ GamePad มาอีกด้วย นอกเหนือจากนั้นภายในกล่องยังประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งเคสใส ชุดอุปกรณ์สำหรับการชาร์จไม่ว่าจะเป็นอะแดปเตอร์ สาย USB TYPE-C รวมถึงสายแปลงหูฟัง 3.5 มม. ครับ
มาดูกันที่สัมผัสแรกนั่นก็คือดีไซน์กันดีกว่าครับ ตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 6.39 นิ้ว ซึ่งน่าจะถูกใจคอเกมเมอร์เพราะถือได้ค่อนข้างถนัดมือ น้ำหนักอยู่ที่ 205 กรัม ซึ่งก็ไม่หนัก ไม่เบาจนเกินไป ดีไซน์ของเครื่องค่อนข้างหรู และดูเท่ ขนาดที่หยิบออกมา ก็สามารถรู้ได้เลยว่านี่คือสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกมจริงๆ
จุดเด่นของ Black Shark 2 Pro ถูกซ่อนไว้ด้านข้างครับ เพราะบริเวณด้านข้างจะมีปุ่มที่เรียกว่า Shark Space ที่สามารถเลื่อนได้ เพื่อเข้าสู่โหมด Shark Space หรือโหมดของการเล่นเกมนั่นเองครับ
พูดถึงความเท่ห์ของ Black Shark 2 Pro ที่เห็นได้ชัดตั้งแต่แวบแรกที่เริ่มเอามาใช้งาน ก็คงไม่พ้น ไฟ LED ตามจุดต่างๆ รอบตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นด้านหลัง หรือด้านข้าง ซึ่งคุณสามารถปรับแต่งไฟเหล่านี้ได้ตามความชอบของคุณ โดยสามารถปรับสีของไฟได้ถึง 8 สี ทีนี้คุณก็มีสมาร์ทโฟนเกมมิ่งในสไตล์ของคุณได้แล้วครับ
สเปคเบื้องต้นของ Xiaomi Black Shark 2 Pro
- ระบบปฏิบัติการ : Android Pie 9.0 ครอบทับ JOY UI รองรับการอัปเดต Android 10
- ขนาดตัวเครื่อง : 163.61 × 75.01 × 8.77 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 205 กรัม
- หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED อัตราส่วน 19.5:9 ขนาด 6.39 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080 พิกเซล)
- หน่วยประมวลผล : Snapdragon 855 Plus
- GPU : Adreno 640
- RAM : เริ่มต้นที่ 8GB ถึง 12GB
- พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน : 128GB/256GB
- ไม่รองรับการ์ดหน่วยความจำ MicroSD
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac 2.4GHz+5GHz, WIFI Display, WIFI Direct, WIFI hotspot, Bluetooth 5.0+aptX, aptX HD, aptX Adaptive, LDAC HD, GPS/AGPS + GLONASS + Beidou
- พอร์ต : USB Type-C
- ลำโพงสเตอริโอ ด้านบนและด้านล่างหน้าจอ
- แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยีเพิ่มความเร็วในการชาร์จ QucikCharge 4.0+
แวะมาดูที่เรื่องหน้าจอกันหน่อยครับ เพราะนี่เป็นสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกม จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ได้ยังไง ด้วยหน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว ซึ่งกว้างพอที่จะสามารถถ่ายทอดบรรยากาศทุกเกมออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีการแสดงผลแบบ AMOLED ความละเอียด FHD+ และ มีอัตราการแสดงผล 120 เฮิรตซ์ (Screen Refresh Rate 120Hz) ที่จะทำให้คุณเห็นทุกรายละเอียดในเกมไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของพุ่มไม้ หรือแม้แต่ศัตรูที่อยู่ไกลๆ ได้อย่างคมชัด รวมถึงรองรับ Multi-Touch ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอสำหรับเกมเมอร์ที่จะมีไอเท็มชั้นดีมาไว้ในการเล่นเกมแล้วครับ
มาดูกันที่ไฮไลท์ของเจ้า Black Shark 2 Pro กันบ้าง นั่นก็คือ Shark Space หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร มันคือระบบที่ทำให้เกมเมอร์ต้องร้องว้าว เพราะนี่คือส่วนที่จะทำให้การเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนของคุณลื่นไหลได้มากขึ้น เพราะ Shark Space สามารถปรับแต่งการเล่นเกมของได้หลากหลาย เหมาะสำหรับคนที่มีใจรักในการเล่นเกมมากๆ ครับ
ในการเรียกใช้งาน Shark Space ค่อนข้างจะเท่ และมีลูกเล่นที่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนอื่นๆ คุณจะสังเกตได้ว่าบริเวณด้านขวาของสมาร์ทโฟน เหนือปุ่มปลดล็อคหน้าจอ จะมีอีกปุ่มนึงอยู่ โดยคุณสามารถเรียกใช้งาน Shark Space ผ่านปุ่มนี้ได้เลยครับ และหากปิดการใช้งานแล้ว ก็สามารถปิดผ่านปุ่มนี้ได้เช่นกันครับ
มาดูกันที่ภายใน Shark Space กันเลยครับ ต้องบอกว่าหน้าตานี่ว้าวมาก ไม่น่าจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนที่ใส่ใจหน้า Catagory เกมเท่านี้มาก่อน โดยใน Shark Space จะมี Game Studio ที่ใช้ในการปรับแต่งการเล่นเกมด้วยครับ เราลองไปดูกันครับว่าเราสามารถปรับแต่งอะไรได้บ้าง
- Game Pad เป็นส่วนของการปรับแต่ง GamePad ซึ่งเดี๋ยวจะขออนุญาตแยกไปอธิบายในส่วนของจอยนะครับ
- Master Touch ระบบนี้จะสามารถตรวจจับแรงกดบนหน้าจอ ซึ่งจะแบ่งเป็นด้านซ้ายของหน้าจอ และด้านขวาของหน้าจอ ซึ่งในบางเกม จะมีการใช้ฟังก์ชั่นระดับแรงกดเพิ่มเข้ามาด้วย
- WiFi เปิดการใช้ WiFi หรือสลับการเลือกใช้ WiFi
- NoNotif ปิดการแจ้งเตือนระหว่างเล่นเกม
- NoKeypad ปิดการใช้งาน KeyPad
- Performance ตรวจสอบศักยภาพของเครื่องระหว่างการใช้งาน
- SharkTime การบันทึกวีดีโอระหว่างอยู่ในโหมด Shake Space
- DashBoard ตรวจสอบเฟรมเรท
- SIM ตั้งค่าสถานะการใช้งาน 4G
- NoIncall ปิดการโทรระหว่างเล่นเกม
- HangUp พักหน้าจอเกม โดยเกมจะยังคงถูกใช้งานอยู่
- Setting สามารถปรับแต่งอื่นๆ ได้เช่น เพิ่มประสิทธิภาพ FPS ปรับสมดุลเสียงในเกม หรือการควบคุมความสว่าง
จากวีดีโอด้านบนเป็นการการันตีไปในตัวเลยว่า Black Shark 2 Pro มีประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงมาก ผมได้ลองปรับตั้งค่าเกม RoV ด้วยคุณภาพสูงสุด และทดสอบเล่นดู ปรากฎว่าสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุดเลยครับ
จากคลิปที่ตัดมาให้ดูคุณภาพภายในเกม ผมเองได้ลองเล่นโดยใช้เวลาระยะนึง ซึ่งปรากฎว่าเครื่องไม่ร้อนเลย เพราะ Black Shark 2 Pro มี Graphene Nanocomposite ซึ่งเป็นท่อระบายความร้อนเหลวอิสระ รวมถึงยังมีเคสที่สามารถระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี แถมคุณภาพกราฟฟิกก็สวยถูกใจคอเกมแน่นอนครับ
มาดูกันที่ตัว GamePad ที่เราได้รับมากันดีครับ ตัว GamePad นี้ดูจากดีไซน์ต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้น่าใช้จริงๆ ครับ ปุ่มควบคุมต่างๆ ให้สัมผัสกับนิ้วมือได้ดีมาก ถ้าคุณคิดว่าปุ่มควบคุมจะแข็งเหมือนจอยสติ๊กรุ่นเก่า นั่นคุณคิดผิดเลยครับ สมาร์ทโฟนว่าเท่แล้ว GamePad ที่ได้มาเท่เข้าไปอีก โดยในแต่ละ Boxset นั้นจะมีการให้ GamePad ที่ต่างกันออกไป อย่างเช่นที่เราได้รับมา จะมี GamePad มาให้หนึ่งตัวเท่านั้นครับ
ในส่วนของ GamePad นี้คุณสามารถซื้อเฉพาะสมาร์ทโฟน แล้วมาซื้อ GamePad แยกต่างหากก็ได้ หรือจะซื้อในแบบ Boxset ที่มี GamePad มาให้สองตัวเลยก็ไม่ว่ากันครับ โดยเจ้าตัว GamePad ที่ว่า จะสามารถสวมติดกันสมาร์ทโฟนได้ ก็ต่อเมื่อตัวสมาร์ทโฟนนั้นต้องใส่เคสเสียก่อนนะครับ ที่สำคัญเจ้าตัว GamePad นี้ก็จำเป็นต้องชาร์จแบตด้วยเช่นกันครับ
ในการใช้งาน GamePad ครั้งแรกนั้น ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถเชื่อมต่อได้เลยนะครับ คุณต้องทำการเชื่อมต่อกับตัว GamePad ซะก่อน (ซึ่งหลังจากการทำการเชื่อมต่อครั้งแรกแล้ว อุปกรณ์จะทำการจดจำให้อัตโนมัติ) โดยคุณสามารถตั้งค่าการเชื่อมต่ออุปกรณ์ครั้งแรกผ่าน Shark Space ครับ
เมื่อติดตั้ง GamePad เข้ากับสมาร์ทโฟนแล้ว คุณสามารถปรับแต่งการใช้งานได้ตามสะดวกอีกด้วย โดยคุณสามารถปรับตำแหน่งปุ่มควบคุมบนหน้าจอได้ หรือถ้าจะปรับแต่งขั้นสูงก็สามารถปรับในส่วนของความไวของ เกมเมาส์ แป้นสัมผัส และระบบการใช้งานเบื้องต้นได้ครับ
พูดถึงเรื่องเกมกันมาบ้างแล้ว มาขอเสริมไลฟ์สไตล์ด้วยการถ่ายรูปบ้างครับ เพราะ Black Shark 2 Pro นอกจากเล่นเกมแล้ว ยังสามารถถ่ายรูปได้สวยอีกด้วย ด้วยกล้องถ่ายรูปหลัง 2 เลนส์ เลนส์หลักความละเอียด 48MP เทคโนโลยีการจับภาพ 4in1 (PDAF) จุดพิกเซลขนาด 0.8μm รูรับแสง f/1.75 ประกอบด้วยชุดเลนส์ 6 ชิ้น และเลนส์ที่ 2 telephoto ความละเอียด 12MP ระบบจับภาพ PDAF จุดพิกเซลขนาด 1.0μm รูรับแสง f/2.2 รองรับการซูมภาพแบบ 2x optical zoom ในขณะที่กล้องหน้าก็ไม่น้อยหน้า ความละเอียด 20MP เรียกว่าเล่นเกมก็ดี ถ่ายรูปก็โดนเลยครับ ถ้าใครสงสัยว่าพูดถึงเรื่องกล้องน้อยไปหรือเปล่า ก็ต้องแอบบอกเลยครับว่าทางเราเน้นมาทดสอบประสิทธิภาพเรื่องเกมมากกว่า เรื่องอื่นเลยอาจไม่เจาะลึกเท่าไหร่นะครับ
พูดมาขนาดนี้เราลองไปดูคะแนนการทดสอบจาก AnTuTu กันครับ โดยเมื่อลองเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่ใช้ Snapdragon 855 เหมือนกัน ก็พบว่าคะแนนค่อนข้างสูงทีเดียว เท่านี้เหล่าเกมเมอร์ก็น่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแล้วนะครับ
โดยภาพรวมแล้ว Black Shark 2 Pro จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่น่าสนใจมากๆ ตัวนึง ที่เหล่าเกมเมอร์ควรมีไว้ครอบครองไว้ หรือถ้ามองในด้านของการใช้งาน ก็ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นไปใหญ่ แต่ยังไงก็ดี Black Shark 2 Pro คือตัวเลือกที่ดีในการเล่นเกม ด้วย Shark Space ที่มีมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ บวกกับดีไซน์ที่มองปุ๊บ ก็รู้ทันทีว่านี่คือ สมาร์ทโฟนเกมมิ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าคุณมองหาสมาร์ทโฟนสำหรับเล่นเกม คุณต้องมองหา Black Shark 2 Pro ครับ
จุดเด่น
- สมาร์ทโฟน สเปคแรงสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
- ดีไซน์สวย เท่ มีไฟ LED ทำให้ตัวเครื่องดูน่าสนใจ
- Shark Space ตอบโจทย์การเล่นเกมได้เป็นอย่างดี สามารถปรับตั้งค่าเกมได้ค่อนข้างละเอียด
- เชื่อมต่อ Game Pad และใช้งานได้อย่างง่ายดาย
- เล่นติดต่อกันได้ยาวนาน โดยที่เครื่องไม่ร้อน
จุดด้อย
- ซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อต่างหาก ในกรณีที่ไม่ซื้อชุด Box Set
- ไม่สามารถออกจากฟังก์ชั่น Shark Space ได้ หากไม่ปิดที่ปุ่มด้านตัวเครื่อง
- ต้องสวมใส่เคสเท่านั้น หาหต้องต่อกับ Game Pad
และหากใครอยากเป็นเจ้าของ Black Shark 2 Pro สามารถพบได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2019 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นที่ ไบเทค บางนา วันที่ 3 – 6 ตุลาคม 2562 นี้ งานใหญ่งานสุดท้ายของปี พลาดงานนี้รออีกทีปีหน้าเลยนะ
