ในปัจจุบัน คงปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าอุปกรณ์ที่ต้องใช้คู่กับการเล่นเกมอีกหนึ่งสิ่งที่คาดไม่ได้ คงจะเป็นหูฟัง และยิ่งเป็นหูฟังในยุคใหม่ ที่นอกจากจะมาพร้อมไมค์ที่เอาไว้สื่อสารกับเพื่อนเวลาเล่นแล้ว ยังมีลูกเล่นและระบบที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง วันนี้ ผมจะพามาทำความรู้จักกันครับ
ทำความรู้จักระบบ 3D Tracking ในหูฟัง สำคัญต่อการเล่นเกมยังไง?
โดยปกติแล้ว ผู้ที่ใช้หูฟังในการเล่นเกมนั้น จะมีไม่กี่ประเภทครับ หนึ่งในนั้นคือเกมประเภท FPS หรือเรียกบ้านๆว่าเกมแนวยิงปืน หูฟังนั้นสำคัญตรงที่เราจะได้ยินเสียงต่างๆภายในเกมได้ละเอียด และชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงยิง เสียงการเดิน แม้กระทั้งเสียงลมหายใจ(ในบางเกม) ซึ่งหากเราไม่ได้ยินเสียงเหล่านี้ ก็เหมือนเราขาดประสาทสัมผัสหนึ่งไปเลยทีเดียว ซึ่งเสียงเหล่านี้ มักจะได้ยินได้ละเอียด และครบกว่า เมื่อฟังในหูฟัง ไม่ใช่ลำโพง
แต่ก็ไม่ใช่หูฟังทุกตัวนะครับ ที่จะสามารถฟังเสียงเหล่านั้นได้ครบ และมีมิติ เรากำลังจะพูดถึงระบบ 3D Tracking เป็นระบบที่จะทำให้หูฟังนั้นมีมิติในแง่ของเสียง นึกภาพง่ายๆ เวลาที่เราจ้างช่างมาติดตั้งเครื่องเสียง Home Theater โดยจะมีลำโพงถูกวางไว้รอบๆ ห้อง จากนั้น ช่างก็จะทำการเช็คระบบเสียง ด้วยการเปิดวิดิโอ ที่มีเสียงแมลงบินวน ซึ่งเสียงที่เราได้ยินนั้นจะเปลี่ยนไปตามตำแหน่งที่แมลงบินไป บินไกล้ บินไกล ระดับเสียงจะไม่เท่ากัน หูฟังที่มีระบบ 3D Tracking ก็จะทำการไกล้เคียงกัน คือจะแสดงเสียงที่แตกต่างกันของหูทั้งสองข้าง เพราะให้ได้มิติที่มากกว่า หากในขณะที่เล่นเกม ศัตรุกำลังจะเดินมาหาเราทางฝั่งขวา เราก็ควรจะได้ยินเสียงทางขวา มากกว่าทางซ้าย
แต่ปัจจุบัน ระบบ 3D Tracking ถูกพัฒนาให้ฉลาดมากกว่านั้นครับ เพราะการจะทำให้เสียงมีมิติ และแสดงผลได้สมจริง ไกล้ ไกล ซ้าย ขวา ได้อย่างแม่นยำนั้น ไม่เพียงแต่ต้องมี Hardwear ที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องตรงกับหูของผู้สวมใส่อีกด้วย โดย 3D Tracking ตัวใหม่ที่ถูกพัฒนาโดย Noveto สามารถที่จะตรวจจับหูของผู้ฟังแต่ละคน และส่งเสียงออกไปให้ตรงจุดที่สุด เพื่อให้เสียงที่ผู้ฟังได้รับนั้น เป็นไปตามสภาพจริงของต้นฉบับเสียงครับ
แล้ว 5.1/7.1 Surround Sound มีส่วนเกี่ยวข้องยังไง?
Surround Sound หากแปลตรงตัวก็คงไม่ต่างจาก 3D Tracking มาก เป็นการกระจายเสียงให้แสดงผลรอบทิศทางโดยจะแตกต่างกันที่จำนวนต้นเสียงที่ออกมา เช่น เมื่อเราฟังหูฟังที่มาพร้อม 5.1SS จะมีเสียง 6 ทิศทาง แต่ 7.1SS จะมีเสียง 8 ทิศทาง เป็นต้น ดังนั้น หากต้องการได้หูฟังที่แสดงเสียงได้หลายทิศทางมากๆ ก็ควรจะเลือกหูฟังที่มีเขียนข้างกล่องว่ามาพร้อมเทคโนโลยี 5.1/7.1 Surround Sound นะครับ
สาเหตุที่ต้องเลือกหูฟังที่รองรับ 5.1/7.1 Surround Sound มาใช้ก่อนเพราะว่ามีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการปรับแต่งระบบเสียง เพราะหากมีหูฟังที่ไม่ดี แต่มีการ์ดเสียงที่ดี มันแย่กว่าการที่มีการ์ดเสียงที่ไม่ดี แต่มีหูฟังที่ดี ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเราสามารถปรับแต่งเสียงให้เป็น 5.1 หรือ 7.1 ได้ โดยที่หูฟังไม่ต้องดีมากก็ได้ ซึ่งถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะยังไงซะ หากเราต้องการให้เสียงดีอย่างถึงที่สุด ยังไงก็ต้องมีหูฟังที่ดีมาเป็นอันดับหนึ่ง และการ์ดเสียงที่ดีมาเป็นอันดับถัดไปครับ
ปรับแต่งเสียงให้เข้ากับแต่ละเกมด้วย Audio Profile
มีการ์ดเสียงหลายรุ่นในตลาดตอนนี้ หรือจะเหมารวมทั้งการ์ดเสียงแยกและออนบอร์ดเลยก็ได้ ที่มีความสามารถให้การปรับแต่งโปรไฟล์การใช้งาน ให้เปลี่ยนไปตามเกมที่เราเล่น หลายเกมถูกผู้พัฒนาปรับมาให้แล้ว ทำให้ไม่ต้องเข้าไปปรับอะไรมาก แต่สำหรับการ์ดเสียงบางตัว และเกมบางเกม ที่ผู้พัฒนาไม่ได้ปรับแต่งมาให้ ผู้ใช้อาจจะต้องปรับแต่งเอง และตั้งโปรไฟล์ หรือหากโปรแกรมที่มากับการ์ดเสียงไหนฉลาดหน่อย ก็สามารถมองเกมตามประเภทเช่นเกมแนว FPS,MOBA,RPG,RTS ก็จะปรับให้เหมาะสมกับแนวเกมนั้นๆให้เลย อันนี้ก็ขึ้นอยู่ที่โปรแกรมที่มากับการ์ดเสียงที่คุรเลือกใช้ครับ
แต่สำหรับใครที่ไม่มีการ์ดเสียง เราสามารถปรับตั้งค่าโปรไฟล์จากตัวหูฟังได้หรือไม่? คำตอบคือได้ครับ ปัจจุบันมีหูฟังหลายตัวที่มาพร้อมโปรแกรมสำหรับปรับแต่งเสียงและโปรไฟล์ได้ไม่ต่างจากโปรแกรมที่มากับการ์ดเสียงเลย ให้คุณสามารถเลือกโปรไฟล์ตามเกมที่ต้องการจะเล่นได้ แต่ก็ต้องติดตั้งโปรแกรมบนเครื่องที่จะใช้งานอยู่ดี
แต่ก็มีบางรุ่นนะครับ ที่ให้เราตั้งค่าที่ตัวโปรแกรมเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้น เราก็สามารถกดปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นต่างๆ ผ่านคอนโทรลเลอร์ที่ออกแบบมาบนตัวหูฟังได้เลย ก็ถือว่าสะดวกดีครับ
ใส่หูฟังเล่นเกมทั้งวัน ทำยังไงให้ไม่ปวดหู?
หูฟังในปัจจุบัน โดยเฉพาะหูฟังเกมมิ่งนั้น มักจะมีการออกแบบและดีไซน์มาให้มีความล้ำสมัย แปลกตา และแตกต่างจากหูฟังทั่วไป ทำให้บ่อยครั้ง บริเวณที่ครอบหูจะมีรูปแบบที่ไม่เป็นมาตรฐานทั่วไป ขนาดใหญ่กว่าปกติบ้าง เล็กกว่าปกติบ้าง ไม่เป็นวงกลมบ้าง เป็นสีเหลี่ยมบ้าง แตกต่างกันออกไปแล้วแต่การดีไซน์
หากการดีไซน์ และครอบหูทำมาดี ใส่และไม่บีบหัว ไม่เจ็บหู ก็ดีไปครับ แต่ปัญหาส่วนใหญ่มักจะเป็นอย่างที่กล่าวมา ทีนี้จะหาครอบหูอันใหม่มาเปลี่ยน ก็ยากครับ หากไม่ใช่ดีไซน์แบบปกติทั่วไป ซึ่งมักจะเกิดกับหูฟังที่มีราคาไม่สูง ดังนั้นวิธีการเลือกซื้อหูฟังที่ดี หากมั่นใจว่าซื้อดีไซน์แปลกๆแล้วไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบีบหัว และครอบหูไม่ดี ก็จัดไป แต่หากงบไม่เยอะ และไม่มั่นใจว่าหูฟังดีไซน์แปลกๆที่สนใจจะดีจริงไหม ก็ควรเลือกดีไซน์แบบทั่วไปไว้ก่อนครับ
แต่ถ้าซื้อมาแล้ว แล้วกำลังประสบปัญหาใส่นานๆแล้วเจ็บหู เริ่มปวดหัวจากการโดนหูฟังบีบหัวด้วยจะทำยังไงดี? โดยเรื่องการบีบหัวนี้ จริงๆแก้ค่อนข้างยาก เพราะหากหูฟังคุณปรับระดับไม่ได้ หรือปรับได้ไม่พอดีกับหัวของคุณ ก็อาจจะยากเกินแก้ไข แต่อาการเจ็บหัว สามารถแก้ได้ด้วยการหาครอบหูอันใหม่มาเปลี่ยน แต่ขอวงเล็บใหญ่ๆ ว่าหูฟังของคุณต้องรองรับการเปลี่ยนครอบหูด้วยนะ ซึ่งถ้าเป็นแบรนด์ใหญ่ๆในปัจจุบัน เราสามารถสั่งซื้ออะไหล่อย่างครอบหูมาเปลี่ยนได้ แต่หากไม่มี ก็อาจต้องไปหาตัวเทียบที่ไกล้เคียงที่สุดมาใส่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เปลี่ยนใหม่ ก็ต้องดีขึ้นด้วยนะครับ
เอาเป็นว่า หากต้องการหูฟังสักตัวมาใช้ในการเล่นเกม และไม่อยากเสียเปรียบคู่ต่อสู้เพียงเพราะหูฟังของเราได้ยินเสียงในเกมไม่ชัด ไม่ครบเทียบเท่ากับของคนอื่น ก็ต้องเลือกหูฟังที่มีคุณสมบัติตามที่ผมแนะนำมานะครับ และสำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อหูฟังเกมมิ่งดีๆ ที่มีโปรสุดพิเศษได้จากที่ไหน มาที่นี่เลยครับ
ในงานจะมีแบรนด์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเรื่องคุณภาพของหูฟังด้านเกมมิ่งมาหลายแบรนด์มากๆ หนึ่งในนั้นก็มีแบรนด์ใหญ่ๆอย่าง HyperX by Kington, Logitech, Steelseries และ ROG by ASUS โดยคุณสามารถคลิกที่โลโก้เพื่อดูรายละเอียดหูฟังเกมมิ่งที่น่าสนใจได้เลย ส่วนโปรในงานจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไว้ทีมงานจะมาอัพเดตกันอีกครั้งนะครับ
ที่งาน Thailand Game Expo by AIS eSports ที่จะระเบิดโปรโมชั่นสุดพิเศษเอาใจชาวเกมเมอร์กับอุปกรณ์เกมมิ่งทั้งสมาร์ทโฟนและพีซี พร้อมพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศการแข่งขันอีปอร์ตสุดมันส์กับมืออาชีพตัวจริง และสนุกไปกับกิจกรรมเด็ด ๆ มากมาย จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ที่จะถึงนี้ ที่ศูนย์ประชุม Bitec บางนา ฮอลล์ EH 100 ข้างงาน Thailand Mobile Expo หรือ TME2019 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เพจหลัก คลิกที่นี่ ครับ
