องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้เพิ่ม “อาการติดเกม” ลงในรายการเงื่อนไขของสุขภาพจิต นอกจากนี้ยังปรากฏในการจำแนกระหว่างประเทศของโรค (ICD) ของรายการมาตรฐาน WHO และเงื่อนไขทางการแพทย์อื่นๆ อีกด้วย
การเพิ่มเติมนี้มีขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญหนดจุดงานอดิเรกในการเล่นเกมกลายเป็นปัญหาได้ ซึ่งอาจช่วยให้ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองกำลังดิ้นรนกับการเล่นเกมได้รับการรักษา อย่างไรก็ตามการกำหนดพฤติกรรมเช่นการเล่นเกม เป็นการเสพติด หรือสภาวะสุขภาพจิตยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน นักวิจัยบางคนยืนยันว่าพฤติกรรมการเล่นเกมที่มีปัญหามักจะเป็นอาการของสุขภาพจิตที่ดิ้นรนมากกว่าที่จะเป็นปัญหาสุขภาพจิตด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าคำว่า “การเล่นเกม” นั้นครอบคลุมกิจกรรมที่หลากหลายซึ่งอาจเป็นกิจกรรมเดี่ยวหรือกิจกรรมทางสังคม มันรวมถึงการเล่นเกมไขปริศนาบน iPhone ของคุณขณะอยู่บนรถไฟใต้ดิน หรือพบปะกับเพื่อน ๆ เพื่อเล่น “Minecraft” และนั่งลงที่ PC ที่ประกอบขึ้นเองเพื่อเล่น “Destiny 2” หลายชั่วโมง
คำจำกัดความขององค์การอนามัยโลกไม่ได้หมายถึงการบ่งบอกว่าเกมประเภทใดเกมหนึ่งเป็นเกมที่เสพติดหรือพูดได้ว่ามีจำนวนเฉพาะที่นำไปสู่ความผิดปกติ การเล่นวิดีโอเกมเท่านั้นที่จะมีคุณสมบัติเป็นภาวะสุขภาพจิตถ้าพฤติกรรมที่รุนแรงพอที่จะส่งผลให้เกิด “ความทุกข์ หรือการด้อยค่าอย่างมีนัยสำคัญในบุคคล ครอบครัว สังคม การศึกษา การประกอบอาชีพ หรือการทำงาน” ตามที่องค์การอนามัยโลก
“ ความผิดปกติในการเล่นเกมนั้นเป็นเรื่องแปลก แต่ก็ยังสำคัญมาก” ดร. เชคการ์ เซเซนา ผู้อำนวยการแผนกสุขภาพจิตและการใช้สารเสพติดของ WHO กล่าวในวิดีโอ YouTube เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ ICD “ ICD ต้องก้าวให้ทันกับความผิดปกติและโรคที่พัฒนาขึ้นและนี่คือหนึ่งในนั้น”
ชุมชนจิตวิทยาได้ถกเถียงกันว่าเกมเป็นเกมที่เสพติดมากพอที่จะอธิบายว่าเป็นความผิดปกติมาระยะหนึ่งแล้วหรือไม่ สมาคมจิตแพทย์อเมริกันได้ปฏิเสธที่จะจำแนกประเภทติดยาเสพติดการเล่นเกมเป็นความผิดปกติ แต่ได้กล่าวว่าต้องวิจัยต่อไป
ก่อนการตัดสินใจของ WHO สมาคมจิตวิทยาสื่อและเทคโนโลยีของสมาคมจิตวิทยาอเมริกันได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับความคิดเรื่อง “เกมผิดปกติ” เนื่องจากการวิจัยไม่เพียงพอในหัวข้อ ไม่ได้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับวิธีการกำหนดการติดวิดีโอเกม (VGA) อาการที่ดีที่สุดในการวินิจฉัยว่ามันเป็นที่แพร่หลาย”
นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้อง “สร้างความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างคนที่อาจใช้เกมมากเกินไป แต่ไม่มีปัญหา และผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาที่สำคัญในชีวิตประจำวันของพวกเขาอันเป็นผลมาจากการเล่นเกมมากเกินไป”
WHO สร้างรายการ ICD เพื่อให้ทุกประเทศสามารถใช้ระบบที่ได้มาตรฐานในการจำแนกโรค ซึ่งช่วยให้สามารถระบุอาการเจ็บป่วยแบบรวมศูนย์และติดตามการวินิจฉัยทั่วไปบางอย่างได้ แต่จะใช้เวลาสักระยะก่อนที่ ICD จะนำไปใช้จริงโดยประเทศต่างๆทั่วโลก ระบบการดูแลสุขภาพแต่ละระบบ จะตัดสินใจเมื่อใดที่จะเริ่มใช้รายการที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบการรักษาบันทึกทางการแพทย์ที่หลากหลาย สหรัฐฯไม่ได้นำ ICD รุ่นล่าสุดมาใช้จนถึงปี 2015 แม้ว่าจะเสร็จสิ้นในปี 1992 และได้รับการรับรองจากสมาชิกบางคนในปี 1994 ในระหว่างนี้การวิจัยถึงผลกระทบของเกมจะดำเนินต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก businessinsider
